วันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2561

Kantana Movie Cafe

Kantana Movie Cafe

ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
img_3914
บริเวณชั้นล่างด้านหน้ารับสั่งเมนูอาหาร
img_3921
ชั้นบน บริเวณสำหรับรับประทานอาหาร
img_3925
ชั้นบน สำหรับนั่งรับประทานอาหาร
img_3917
ชมหนังฟรี วันละ 3-4 รอบ โรงหนังรองรับได้ 50 ที่นั่ง
img_3942

ด้านหน้าร้าน
img_3949
ข้าวหน้าปลาซาบะเทริยากิ ราคา 85 บ.

 Kantana Movie Cafe 

Kantana Movie Cafe คาเฟ่และโรงหนังอยู่ในชนบทห่างความวุ่นวาย พิเศษที่สุดคือฉายหนังฟรี  ในโรงหนังระบบทันสมัย  บริการอาหารเมนูน่าทาน ด้านขวาติดริมแม่น้ำแม่กลองวิวสวย ด้านซ้ายมองเห็นภูเขาด้วย คาเฟ่มี 2 ชั้น ชั้นล่างสำหรับสั่งอาหาร และทางเข้าโรงหนัง ชั้นบนเป็นพื้นที่สำหรับทานอาหาร โรงหนังจุได้ 50 ที่นั่ง ฉายวันละ 3-4 รอบ เข้าชมฟรี และยังมีคอร์สเรียนพิเศษสำหรับเด็กๆ  ร้านอยู่บนถนนเรียบแม่น้ำแม่กลอง ระหว่าง วัดถ้ำเสือเลยมาประมาณ 2.5 กม. ก่อนถึง วัดบ้านถ้ำ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี หรือ ตั้งอยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนบ้านถ้ำ โทร. 034 910 266

ข้อมูลร้าน

  • ชื่อ : Kantana Movie Cafe
  • ประเภท : คาเฟ่ โรงหนังฟรี
  • ที่ตั้ง : 1/10 ม.2 ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี 71110
  • การเดินทาง : อยู่บนถนนเรียบแม่น้ำแม่กลอง ระหว่าง วัดถ้ำเสือ มาประมาณ 2.5 กม. และ วัดบ้านถ้ำ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี หรือ ตั้งอยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนบ้านถ้ำ
  • การชำระเงิน : เงินสด
  • จำนวนที่นั่ง : 50 ที่
  • เปิดบริการ : 7.00 – 19.00 น. ทุกวัน
  • สิ่งอำนวยความสะดวก : โรงหนังฟรี 50 ที่นั่ง ,Free WiFi , ห้องน้ำแยกชายหญิง
  • ที่จอดรถ : มีที่จอดรถส่วนตัวของร้าน กว้างขวาง
  • Facebook :  –
  • โทร :  034 910 266

 เมนูอาหาร 

– ข้าวหน้าปลาซาบะเทริยากิ size M       ราคา 65 บ.
– ข้าวหน้าปลาซาบะเทริยากิ size M       ราคา 85 บ.
– ข้าวหน้าไก่เทริยากิ                                ราคา 85 บ.
– ข้าวหน้าปลาแซลมอน                           ราคา 160 บ.
– หมูเอลนิญโญ่(ข้าวหน้าหมูสไปซี่มิโช๊ะ  ราคา 85 บ.
– ครอบครัวไก่โอเกะ(ข้าวไก่คาราเกะราดไข่) ราคา 85 บ.
– ข้าวยำไก่แซ่บ                                        ราคา 65 บ.

 ของหวาน 

– ฟรุตตี้ วาฟเฟิ่ล กับสตอเบอรี่ซอส  ราคา  95 บ.
– นัท วาฟเฟิ่ล ราคา 95 บ.

 ทานเล่น 

– ไก่ป๊อป ราคา 40 – 75  บ.
– คารามารี ราคา 95 บ.
– ไก่วิงแซ่บ ราคา 95 บ.
– ปีกไก่ซอสส้ม ราคา 95 บ.
– ไก่คาราเกะ ราคา 75 บ.
– ป๊อปคอร์น  ราคา 20 บ.
– เฟรนฟราย ราคา 35 บ.

 เครื่องดื่ม 

– กาแฟ ราคา 50-60 บ.
– เครื่องดื่มอื่นๆ ราคา 50-70 บ.

วันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2561

เมืองมัลลิกา ร.ศ.๑๒๔ เมืองไทย ๆ ที่คนไทยไม่ควรพลาด!


สวัสดีครับ เมื่อวันก่อนได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ไปแบบไม่ได้แพลนอะไรมาก บังเอิญเห็นใน Facebook ว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งเพิ่งเปิดอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ที่ผ่านมา ตอนแรกก็ไม่ได้กะจะเข้าไปดูหรอกครับ เพราะก็คิดว่าคงเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวที่จังหวัดอื่น ๆ ที่มี Concept ไทยย้อนยุคแค่นั้นเอง แต่ผะเอิ๊ญญญญญ!! ขับรถผ่านพอดี เลยตัดสินใจเลี้ยวเข้าไปลองดูครับว่าเป็นยังไง สถานที่นี้มีชื่อว่า เมืองมัลลิกา ร.ศ.๑๒๔ ครับ

   เมืองมัลลิกาตั้งอยู่ตรงทางเข้าปราสาทเมืองสิงห์ ติดปั๊มบางจาก ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ห่างจากตัวเมืองกาญฯ 32 กม. 
   ขับรถเข้าไปก็เจอประตูโอ่อ่า ใหญ่โตอลังการ พร้อมกำแพงเมืองที่ใหญ่โตราวกับหลุดมาจากในหนังไทยที่เคย ๆ ดูกันมา แถมยังมีรถลากไว้คอยบริการอยู่ทางหน้าเมืองอีกด้วย โอ้วว! คนลากรถก็แต่งตัวชุดไทยชาวบ้าน ทำให้ได้บรรยากาศ ตั้งแต่ก่อนที่จะได้เข้าไปดูข้างในดีจริง ๆ



   หลังจากนั้น ก็เดินไปซื้อตั๋วเพื่อเข้าไปข้างในครับ อัตราค่าเข้า ณ ตอนนี้ (พฤศจิกายน 2559) คือ ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 75 บาท ต่อคน
   คราวนี้ก็เซอร์ไพรส์ไปอีก เมื่อเค้าให้แลกเหรียญสตางค์เพื่อเอาไว้ใช้ในการจับจ่ายใช้สอยภายในเมือง โอ้โหวววว!!! เกิดมาไม่คิดว่าจะได้ใช้เงินสตางค์ที่มีรูตรงกลางเหมือนกันแหละครับ ฮ่าๆๆๆ อัตราการแลกเงินก็อยู่ที่ 5 บาท ต่อ 1 สตางค์ มีให้ตั้งแต่เหรียญ 1, 2, 5 และ 10 สตางค์ครับ

   ตรงทางช่องทางเดินที่ซื้อตั๋วและแลกเหรียญ สวยดี เลยหันไปแชะ พร้อมได้นางแบบมา 1 นาง (ถ้ากลางคืนผมวิ่งแน่ ฮ่าๆ)

   หลังจากซื้อตั๋ว แลกเหรียญเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เดินเข้าไปข้างในครับ เข้าไปก็ร้อง เชรดดด!! ดัง ๆ ยาว ๆ เลยครับ เพราะว่าสวยมาก ราวกับหลุดไปอยู่อีกเมืองจริง ๆ
   เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ นี้ถือเป็น Landmark แห่งใหม่ของอำเภอไทรโยค ครับ เค้าบอกว่าเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมและวิถีชนแห่งแรกในไทย และแห่งเดียวในโลกอีกด้วย!! โอ้ววว ก็ไม่ผิดแปลกมากมายจากที่เค้านิยามตัวเองไว้เท่าไหร่นะครับ เพราะข้างในก็จะแสดงวิถีชีวิตแบบไทยให้ได้เห็นจริง ๆ 
   เข้าไปจุดแรกที่เจอก็จะเป็นสะพานหัน เพื่อข้ามไปยังในเมือง

   ในสะพานก็จะขายผลไม้แห้ง ผลไม้ดอง ตลอดสะพานเลยครับ


   เดินผ่านสะพานมา ก็จะเจอชาวบ้านกำลังทำแป้งข้าวเหนียวกันอยู่ ตอกกันใหญ่ ดูจากสีหน้าแล้ว สนุกสนานน่าดูเลยนะครับ


   ในส่วนข้างในก็จะเป็นร้านค้าต่าง ๆ ครับ ทั้งของกิน ร้านขายของต่าง ๆ ซึ่งบางร้านก็จะทำกันแบบสด ๆ ให้เห็นวิธีการทำตรงนั้นกันเลย เพลินดีนะครับ เพราะเราเกิดมาในยุคนี้ สิ่งที่เป็นวิถีดั้งเดิม เราก็ไม่มีโอกาสได้เห็นมากนักหรอกครับ ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำให้คนรุ่นใหม่อย่างผม ตื่นตาตื่นใจไม่น้อยเลยทีเดียว









   ถ่ายรูปเพลินมากกกก ตึก อาคาร บ้านเรือนทรงไทยต่าง ๆ ก็ทำให้บรรยากาศที่นี่สงบดีนะครับ







   หอคอยนี้สามารถขึ้นไปได้นะครับ แต่เสียดาย กลัวเวลาไม่พอ เลยไม่ได้ขึ้นไป อดเห็นภาพมุมสูงเลย

   มีการสาธิตการดำนาและสีข้าวแบบโบราณให้ดูด้วย



   อีกหนึ่งสิ่งที่ผมประทับใจมาก ๆ นั่นก็คือ ชาวบ้าน (หรือเจ้าหน้าที่) จะพูด ขอรับ/เจ้าค่ะ ทุกคนจริง ๆ ย้ำว่าทุกคนจริง ขอรับ!! 


   อ้อ! ที่นี่มีชุดไทยโบราณให้เช่าด้วยนะครับ ราคาเช่าชุดไทย ผู้หญิง 200 บาท ผู้ชาย 100 บาท เด็ก 50 บาท ครับผม ใครที่อยากได้บรรยากาศแบบนี้ก็แนะนำเลยครับ เช่าเถอะ ฮ่า ๆ ๆ

   สำหรับใครที่อยากจะทานข้าวที่นี่ ก็มีให้เหมือนกันครับ อยู่บริเวณเรือนไทยใหญ่ ๆ ตรงโน้นน เห็นว่ามีการแสดงด้วยนะ แต่ผมไม่ได้เข้าไป (แอบเห็นคนที่ไปโพสต์แล้วรู้สึกเสียดายมากมาย เพราะอาหารน่ากินมากๆ ฮ่าๆ) 

   เอาเป็นว่าครั้งแรกที่มา เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ แบบไม่ได้รู้ข้อมูลอะไรมาก ก็ถือว่าน่าประทับใจมาก ๆ โดยเฉพาะคนชอบถ่ายภาพแบบผม เพราะเป็นการเที่ยวที่ถ่ายรูปเพลินมาก ๆ สถานที่สวยไปหมดทุกพื้นที่จริง ๆ ครับ
   สำหรับใครที่อยากทราบข้อมูลเพิ่มเติม หรือกิจกรรมต่าง ๆ ของทางเมืองมัลลิกา ก็สามารถเข้าไปได้ที่ https://www.facebook.com/MalikaR.E.124/ 
ได้นะครับ สำหรับกระทู้นี้ของผมก็ขอลาไปด้วยบุรุษผู้นี้ละกัน ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน สวัสดีครับ

วันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

มีนาคาเฟ่  ตั้งอยู่ในอำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี  คาเฟ่สุดชิค บรรยากาศสุดชิล  ริมทุ่งนาหลังวัดถ้ำเสือ ทำให้สามารถมองเห็นวิวของวัดถ้ำเสือได้จากด้านหน้าร้าน  แถมมีสะพานทอดยาวกลางทุ่งให้เดินเล่นชมวิว ถ่ายภาพเช็คอินเก๋ๆหลายมุม เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกาญจนบุรีที่ไม่ควรพลาด สามารถเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับได้ไม่ยาก เพราะใช้เวลาเพียงสองชั่วโมงครึ่งจากกรุงเทพเท่านั้น
สำหรับการเดินทางมาที่มีนาคาเฟ่ เมื่อมาถึงอำเภอท่าม่วงก่อนเข้าตัวเมืองกาญจน์ ใช้เส้นทางเดียวกับวัดถ้ำเสือ โดยผ่านด้านหน้าวัด จากนั้นขับตรงไปทางถนนด้านหลัง จะเจอถนนสูงๆ คล้ายสะพานให้ข้ามไป จากนั้นเลี้ยวซ้ายขับไปตามถนนเลียบลำคลองเล็กๆ ตรงไปจนสุดถนนแล้วเลี้ยวซ้ายอีกครั้ง ตรงไปอีกนิดนึงจะเห็นรถจอดเยอะๆ นั่นแหละ  คือ มีนาคาเฟ่   สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยเส้นทาง โดยเลือกตั้งเส้นทางจาก  google maps  แนะนำให้ตั้งมาที่วัดถ้ำเสือก่อน แต่ไม่ต้องเข้าไปในบริเวณวัด ให้ขับผ่านทางเข้าของวัดไปตามถนนเส้นเล็กๆ ด้านหน้าวัด จากนั้นถามทางชาวบ้านในบริเวณนั้นว่า ร้านกาแฟริมทุ่งนาไปทางไหน ไม่แนะนำให้ตั้งว่า มีนาคาเฟ่โดยตรง เพราะจะไม่ใช่เส้นทางที่ถูกต้องชวนให้งงมาก
1-%e0%b8%9b%e0%b8%81

 มาถึงช่วงบ่ายผู้คนคึกคักพอสมควร มีรถเข้าออกตลอด ตัวร้านตั้งโดดเด่นริมทุ่ง เป็นร้านเล็กๆ สร้างด้วยปูนเปือยแบบเรียบง่าย  มีพื้นที่บริเวณดาดฟ้าให้เดินขึ้นบันไดไปชมวิวได้
ด้านข้างปูด้วยอิฐบลอกสี่เหลี่ยมสลับกับพื้นหญ้าเป็นลายตารางหมากรุก ดูเท่ห์ไปอีกแบบ มีมุมน่ารักๆ เป็นหุ่นไล่กานั่งอยู่  สามารถไปนั่งโพสต์ท่ากับเจ้าหุ่นไล่กาคูลมาก
4-dew_5159

5-dsc_7214

6-dew_5161
มองไปด้านหน้าเห็นกระท่อมกลางนาสำหรับนั่งเล่น
10-dsc_7179
พื้นที่ภาพในตัวร้านเนืองแน่นไปด้วยผู้คน ด้านในตัวร้านเป็นแบบห้องแอร์ และเคาน์เตอร์บาร์สำหรับสั่งเครื่องดื่ม
11-dew_5140

 13-dew_5154


Kantana Movie Cafe

Kantana Movie Cafe ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี บริเวณชั้นล่างด้านหน้ารับสั่งเมนูอาหาร ชั้นบน บริเวณสำหรับรับประทานอาหาร ...